
Rayan Cherki จะเป็น “เดอ บรอยน์ คนใหม่ของแมนซิตี้” ได้จริงไหม?
ตอบก่อน:
จากบทวิเคราะห์ของพรีเมียร์ลีกที่อ้างอิงข้อมูล Opta มองว่า Rayan Cherki มีศักยภาพจะเป็นตัวสร้างสรรค์เกมระดับเดียวกับ Kevin De Bruyne ได้จริง ทั้งเรื่องเทคนิคและตัวเลขสร้างโอกาส แต่ตอนนี้ยังเป็นแค่ “สัญญาณเริ่มต้น” เพราะเจ้าตัวยังต้องปรับตัวกับสปีดของพรีเมียร์ลีกและแท็กติกของเป๊ปให้ได้ก่อน
เปิดตัวช้า เจ็บยาว แต่คืนมาแล้วแบบดังสนั่น
เชอร์กีเริ่มชีวิตที่แมนซิตี้ไม่ง่ายเลย
-
ช่วงแรกลงเล่นแค่ 2 นัด ก็เจ็บต้นขา ต้องพักไปเกือบ 2 เดือน
-
ทำให้เสียจังหวะทั้งเรื่องความมั่นใจ และการปรับตัวกับทีมใหม่ ลีกใหม่
ดีลนี้ตอนแรกก็ถูกตั้งคำถามอยู่แล้วว่า
“ตัวรุกสไตล์จอมหลุดกรอบแบบนี้ จะเข้ากับฟุตบอลเป๊ปจริงเหรอ?”
แต่สัปดาห์ล่าสุดเหมือนเป็นจุดเปลี่ยน
-
เกมคาราบาวคัพ ชนะสวอนซี 3–1 เขาได้ออกสตาร์ต และเล่นเหมือนคนอัดเก็บของมานาน
-
ยิง 1 ประตู
-
จ่าย 1 แอสซิสต์
-
ยิงชนเสาอีก 1 ครั้ง
-
เป็นคนพาทีมกลับมาพลิกชนะเกือบทุกจังหวะบุกสำคัญ
-
-
เกมลีกถล่มบอร์นมัธ เขายังต่อยอดฟอร์มเดือดต่อในฐานะเพลย์เมกเกอร์ตัวรุก
สำหรับแฟนบอลแมนซิตี้นี่คือครั้งแรกที่รู้สึกชัด ๆ ว่า “เด็กคนนี้ของจริง” หลังจากรอคอยมาพักใหญ่
ตัวเลขโหดระดับจอมทัพ: ยิงเองก็ได้ ปั้นให้เพื่อนก็ดี
เกมชนะสวอนซีคือเกมที่บอกทุกอย่างชัดที่สุด
-
เชอร์กีมีส่วนร่วมกับการยิง มากกว่า 10 ครั้งในเกมเดียว
-
ยิง 5 ครั้ง
-
สร้างโอกาสให้เพื่อน 6 ครั้ง
-
Opta ชี้ว่า ก่อนหน้านี้คนสุดท้ายในทีมแมนซิตี้ที่ทำ “shot involvement” มากกว่านี้ในเกมเดียว คือ ฟิล โฟเด้น เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ยิง 6 ครั้ง จ่ายให้เพื่อนลุ้นอีก 5 ครั้ง ส่วน De Bruyne เองเคยทำแบบนี้ได้หลายแมตช์ในช่วงโหดสุดของเขา
ย้อนไปดูสถิติที่ลียงฤดูกาลก่อน เชอร์กีก็ไม่ได้มาแบบดวงดีเฉพาะแมตช์เดียว
-
มีส่วนกับประตูทั้งหมด 32 ครั้ง (12 ประตู 20 แอสซิสต์)
-
ใช้เวลาในสนามแค่ประมาณ 3,100 นาที เฉลี่ยมีส่วนกับประตูทุก ๆ 97 นาทีเท่านั้น
ตัวเลขแบบนี้คือระดับเพลย์เมกเกอร์ตัวท็อปของยุโรป ไม่ใช่แค่แข้งพรสวรรค์ที่โชว์สวย ๆ แต่ไม่มีผลกับสกอร์
เชื่อมกับ Haaland แล้วไหลลื่นแบบ De Bruyne
จุดที่ทำให้คนเริ่มเปรียบเทียบกับ De Bruyne จริง ๆ คือการเล่นร่วมกับ Erling Haaland ในเกมถล่มบอร์นมัธ
-
เชอร์กีจ่ายให้ฮาลันด์ 2 ครั้ง = 2 ประตูตรง ๆ
-
และเมื่อดูรวมทั้งฤดูกาลจนถึงตอนนี้
-
83.3% ของการจ่ายจากเชอร์กีไปฮาลันด์ (5 จาก 6 ครั้ง) กลายเป็น “โอกาสยิง” ทันที
-
ตัวเลขนี้ดีเท่ากับคู่หู เจเรมี โดกู – ฮาลันด์ เลยทีเดียว
-
สิ่งที่โดดเด่นมากคือ
-
แอสซิสต์ทั้งสองครั้งให้ฮาลันด์ เป็นการจ่าย “จังหวะแรก” ทั้งคู่
-
ลูกแรก โหม่งเชื่อมสุดเนียนจากแดนกลาง ทะลุแนวรับบอร์นมัธ
-
ลูกสอง จิ้มชิปบอลนุ่ม ๆ หลังรับบอลหนึ่งจังหวะจากฟิล โฟเด้น
-
Opta ยังบอกอีกว่า เชอร์กีจับบอลไปทั้งหมด 69 ครั้งใน 73 นาที มากกว่าแนวรุกส่วนใหญ่ในทีม และเป็นหนึ่งในคนที่รับบอล “ระหว่างเส้นกองกลาง–กองหลังคู่แข่ง” มากที่สุดในเกมนั้นด้วย
พูดง่าย ๆ คือ
เขาเป็นคนที่ยืนในพื้นที่ยากที่สุด แต่ยังหาบอลเจอ และสร้างจังหวะให้ฮาลันด์ได้ตลอด
สไตล์คล้าย De Bruyne ตรงไหน?
ในบทวิเคราะห์ของพรีเมียร์ลีก อธิบายว่า เชอร์กีอาจไม่ได้เล่นคล้าย De Bruyne ทุกอย่าง แต่มี “จุดร่วมสำคัญ” อยู่หลายอย่าง
-
เวลาเกมอึดอัด เขายังหาช่องจ่ายบอลคิลเลอร์พาสได้
-
เก่งมากในพื้นที่แคบ ใช้เท้าซ้าย–ขวาได้ลื่น ไล่ประกบยาก
-
ต่อให้เงียบไปช่วงหนึ่ง ก็มีศักยภาพจะจ่ายทีเดียวขาด หรือยิงเองเปลี่ยนหน้าเกมได้
อีกด้านหนึ่ง มีคนบอกว่า Tijjani Reijnders ดูเป็น “โปรไฟล์ใกล้ De Bruyne” มากกว่าในเชิงตำแหน่งกับการวิ่งเติม แต่ถ้ามองเรื่อง “output” คือจำนวนการมีส่วนกับโอกาสและประตู เชอร์กีอาจไปแตะระดับนั้นได้ง่ายกว่า เพราะความจัดจ้านในพื้นที่สุดท้ายของเขา
เป๊ปยังเตือน “ของดี แต่ต้องขัดเกลาอีกเยอะ”
ถึงตัวเลขจะสวย แต่เป๊ปก็ยังไม่ยอมให้ทุกอย่างไหลตามกระแสจนเกินจริง
หลังเกม เป๊ปให้สัมภาษณ์ว่าเขาชอบ
-
วิสัยทัศน์ในพื้นที่สุดท้าย
-
ความกล้าพาบอลขึ้นหน้า
-
ความกล้าเล่นจังหวะเสี่ยง ๆ ที่ต่างจากผู้เล่นคนอื่นในทีม
แต่ก็ย้ำว่า เชอร์กียังต้องปรับตัวกับ
-
จังหวะฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่เร็วและดุดัน
-
การตัดสินใจบางครั้งที่ “โชว์เยอะเกิน” ทั้ง ๆ ที่มีทางเลือกง่ายกว่านั้น
มีช็อตหนึ่งที่กล้องจับได้ชัด
-
เชอร์กีพยายามแตะบอลอ้อมกองหลังกลางสนามแทนที่จะจ่ายง่าย ๆ ให้เพื่อน
-
เสียบอล และบอร์นมัธได้สวนกลับจนเกือบเสียประตู
ตรงนี้แหละที่บทวิเคราะห์เรียกเขาว่า “มาฟเวอริก” หรือสายติสต์ที่ทั้งน่ากลัวและน่าปวดหัวไปพร้อมกัน
แต่สุดท้ายเป๊ปก็ยอมรับว่า ซิตี้เซ็นเขามาทั้งที่รู้ข้อดี–ข้อเสียนี้อยู่แล้ว และเชื่อว่ากำไรจากความโดดเด่นของเขาจะมากกว่าความเสี่ยงแน่นอน
มุมบรรณาธิการพรีเมียร์ลีก: ของแท้ หรือแค่ฟอร์มแรงช่วงสั้น ๆ?
ในฐานะบรรณาธิการที่ตามพรีเมียร์ลีกทุกสัปดาห์ มองดีลนี้แบบใจเย็นจะเห็นประมาณนี้
-
เชอร์กีมี “ของจริง” ตามตัวเลข ไม่ใช่แค่ไฮไลต์สวย ๆ
-
ตัวเลขมีส่วนกับประตูตั้งแต่สมัยลียง
-
สถิติสร้างโอกาส–ยิงเองในแมตช์ล่าสุดชัดเจนว่าเขาเป็นคนแบกเกมบุกได้
-
-
จุดที่ต้องพิสูจน์คือความสม่ำเสมอและแท็กติก
-
เล่นดี 2–3 เกมไม่พอจะเทียบกับ De Bruyne ที่ทำระดับนี้มาหลายปี
-
ต้องดูว่าเจอทีมตั้งรับลึก เล่นปิดพื้นที่แน่น ๆ เขาจะยังสร้างจังหวะได้ต่อเนื่องไหม
-
-
ผลระยะยาวต่อแมนซิตี้และพรีเมียร์ลีก
-
ถ้าเขาปลดล็อกตัวเองได้จริง ซิตี้จะมี “จอมแอสซิสต์ใหม่” ให้ฮาลันด์ทันที
-
ลีกจะมีอีกหนึ่งสตาร์ที่เล่นสนุก ดูเพลิน และเปลี่ยนเกมได้ทุกวินาที
-
สำหรับแฟนบอลและสายวิเคราะห์ที่ตามทั้งสถิติและราคาในเว็บอย่าง UFABET การโผล่มาของ Cherki ในโหมดฟอร์มจัดแบบนี้ อาจทำให้ภาพแมนซิตี้ในสายตาหลายคน “น่ากลัวขึ้นไปอีกขั้น” เพราะแปลว่าทีมไม่ได้มีแค่ฮาลันด์คนเดียวที่พลิกเกมได้แล้ว
สรุปท้าย:
ตอนนี้ยังเร็วไปจะบอกว่า Rayan Cherki คือ “De Bruyne คนใหม่” แบบเต็มปาก แต่สัญญาณหลายอย่างบอกว่าเขามีของครบทั้งเทคนิค วิสัยทัศน์ และตัวเลขรองรับ ถ้าเขาผ่านด่านเรื่องความสม่ำเสมอและการเล่นตามระบบของเป๊ปได้เมื่อไหร่ คำว่า “มาฟเวอริก” อาจถูกเปลี่ยนเป็น “จอมทัพคนใหม่ของแมนซิตี้” ในเล่มประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกก็เป็นได้