อายุงานกุนซือพรีเมียร์ลีก 2025/26

Pep ยังครองสถิติยาวสุด อายุงานกุนซือพรีเมียร์ลีก 2025/26

ถ้าพูดถึง อายุงานกุนซือพรีเมียร์ลีก 2025/26 ชื่อที่ยังยืนหนึ่งแบบไม่ต้องลุ้นคือ Pep Guardiola แห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการพรีเมียร์ลีกระบุว่า Pep เข้ามาคุมเรือใบสีฟ้าตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2016 และยังคงทำงานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ในยุคที่เก้าอี้ผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีก “ร้อน” แทบทุกสโมสร การที่ Pep อยู่ในตำแหน่งเกิน 9 ปี เป็นภาพสะท้อนทั้งสองด้านพร้อมกัน คือ

  • ความสำเร็จในสนาม ทั้งแชมป์ลีกและถ้วยต่าง ๆ ที่ทำให้สโมสรเชื่อมั่น

  • ความไว้วางใจจากบอร์ดบริหาร ที่ยอมให้เขาวางโครงสร้างระยะยาวมากกว่าแค่ดูผลลัพธ์ฤดูกาลต่อฤดูกาล

นอกจากถ้วยแชมป์จำนวนมาก สิ่งที่ Pep สร้างให้แมนฯ ซิตี้ คือ “ตัวตนของทีม” จนทำให้สโมสรดูมีเสถียรภาพ แม้จะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นอยู่ตลอดก็ตาม

อันดับถัดมา: Arteta และ Silva ตัวอย่างของ “ให้เวลาแล้วเห็นผล”

รองจาก Pep ในตาราง อายุงานกุนซือพรีเมียร์ลีก 2025/26 คือ Mikel Arteta ของอาร์เซน่อล ที่เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2019 และ Marco Silva ของฟูแล่ม ที่นั่งเก้าอี้มาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2021

ทั้งสองคนเป็นเคสตัวอย่างชัดเจนของสโมสรที่ “เลือกทางยาก แต่ยอมรอผลลัพธ์”

  • อาร์เซน่อลกับ Arteta
    ช่วงแรกที่เขาเข้ามาคุมทีม ผลงานไม่ได้นิ่งทันที ทีมต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายรอบ ปรับโครงสร้างค่าเหนื่อย และยอมเสียสตาร์บางคนออกไป แต่สโมสรก็ยังคงหนุนหลัง Arteta ต่อเนื่อง สุดท้ายทีมของเขากลายเป็นหนึ่งในตัวลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำทุกฤดูกาล และมีสไตล์การเล่นชัดเจน

  • ฟูแล่มภายใต้ Silva
    ฟูแล่มเคยถูกมองเป็นทีมลุ้นตกชั้นแทบทุกปีที่ขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีก แต่การมาของ Marco Silva ช่วยยกระดับทีมให้พ้นจากภาพเดิม เปลี่ยนมาเป็นทีมกลางตารางที่เน้นเกมรุกดูสนุก มีเอกลักษณ์ในการเล่น และในบางซีซั่นยังมีลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปแบบเซอร์ไพรส์ด้วย

บทเรียนจากสองเคสนี้คือ ถ้าสโมสรเลือกโค้ชที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน การให้เวลาอย่างน้อย 3–4 ฤดูกาล อาจคุ้มค่ากว่าการปลดแล้วเริ่มใหม่แทบทุกปี

ภาพรวมทั้งลีก: เปลี่ยนบ่อย แต่ยังมีเก้าอี้ “มั่นคง” ให้เห็น

เมื่อไล่ดูรายชื่อผู้จัดการทีมทั้ง 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025/26 จะเห็นภาพที่น่าสนใจสองด้านไปพร้อมกัน

ด้านหนึ่งคือ มีเฮดโค้ชจำนวนไม่น้อยที่เพิ่งเข้ามารับงานไม่ถึง 1 ปี เช่น

  • Arne Slot ที่รับงานลิเวอร์พูลตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2024

  • Enzo Maresca ที่เข้าคุมเชลซีในเดือนมิถุนายน 2024

  • Fabian Hürzeler ที่รับตำแหน่งกุนซือไบรท์ตันช่วงเดือนมิถุนายน 2024

ด้านที่สองคือ ลีกยังเต็มไปด้วย “การเปลี่ยนกุนซือระหว่างฤดูกาล” ในซีซั่น 2025/26 จากข้อมูลการเปลี่ยนผู้จัดการทีมในหน้าอ้างอิงต่าง ๆ เช่น Wikipedia ของพรีเมียร์ลีก จะเห็นว่ามีการสับเปลี่ยนเฮดโค้ชเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างเช่น

  • การแต่งตั้ง Thomas Frank ไปคุมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

  • การเปลี่ยนตัว Sean Dyche ที่น็อตติงแฮม ฟอเรสต์

  • การดึง Rob Edwards กลับมาคุมวูล์ฟส์ในเดือนพฤศจิกายน

ตัวเลขและเคสเหล่านี้ย้ำให้เห็นว่า พรีเมียร์ลีกยังเป็นลีกที่ผู้จัดการทีมถูกกดดันสูงมาก ถ้าผลงานเริ่มดรอป หรือเปิดฤดูกาลได้แย่จริง ๆ โอกาสถูกปลดกลางทางก็ยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

มุมมองบรรณาธิการ: อายุงานกุนซือพรีเมียร์ลีก 2025/26 บอกอะไรเรา?

จากการไล่ดู อายุงานกุนซือพรีเมียร์ลีก 2025/26 สามารถสรุปข้อสังเกตสำคัญได้ประมาณ 3 ข้อ ได้แก่

1. ความต่อเนื่องคือปัจจัยร่วมของทีมลุ้นแชมป์

Pep กับแมนฯ ซิตี้ และ Arteta กับอาร์เซน่อล คือสองเคสที่ชัดที่สุดว่าความต่อเนื่องของกุนซือส่งผลโดยตรงต่อโอกาสลุ้นแชมป์ ทั้งสองทีมมีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน แผนเสริมทัพสอดคล้องกับแนวทางโค้ช และสามารถสร้างทีมใหม่ซ้อนทับทีมเก่าได้โดยไม่ต้องรื้อทั้งหมด

2. สโมสรระดับกลางตารางเริ่ม “คิดยาว” มากขึ้น

เคสของ Marco Silva ที่ฟูแล่ม แสดงให้เห็นว่าทีมระดับกลางตารางก็เริ่มใช้แนวคิดระยะยาวมากขึ้น ไม่ได้ปลดโค้ชทันทีเมื่อผลงานแผ่วในระยะสั้น สโมสรยอมรับความผันผวนบางช่วงของฟอร์มการเล่น แลกกับการได้กุนซือที่รู้จักทีมและพัฒนาขุมกำลังต่อเนื่องหลายปี

3. แต่เก้าอี้ก็ยังร้อนเสมอสำหรับทีมที่ผลงานดรอปหนัก

ข้อมูลการเปลี่ยนกุนซือในซีซั่น 2025/26 บอกชัดว่า ถ้าเริ่มต้นฤดูกาลได้ย่ำแย่จริง ๆ สโมสรยังพร้อมเปลี่ยนทันที เพื่อหวัง “ช็อกทีม” แก้สถานการณ์ในระยะสั้นก่อน แม้จะต้องยอมเสียความต่อเนื่องในภาพรวมก็ตาม

ตารางอายุงานกุนซือ: เครื่องมืออ่านเกมนอกเหนือจากสถิติในสนาม

สำหรับแฟนบอลพรีเมียร์ลีก การมองตาราง อายุงานกุนซือพรีเมียร์ลีก 2025/26 ไม่ได้เป็นแค่ข้อมูลสนุก ๆ แต่ช่วยให้ “อ่านเกม” ได้ลึกขึ้นกว่าที่คิด เพราะมันสะท้อนหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน เช่น

  • ระดับความไว้ใจระหว่างบอร์ดบริหารกับผู้จัดการทีม

  • ทิศทางระยะยาวของสโมสร ว่ากำลังสร้างทีมใหม่หรือเน้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

  • ความเสี่ยงที่อาจเกิดข่าว “ปลดกุนซือ” หรือ “เปลี่ยนโค้ช” ในอนาคตอันใกล้

สำหรับสายวิเคราะห์เกม สาย FPL หรือแม้แต่คนที่ชอบตามข่าวก่อนตัดสินใจดูบอลหรือติดตามราคาตลาด การรู้ว่าเก้าอี้ไหนมั่นคง หรือเก้าอี้ไหนเริ่มร้อน อาจช่วยให้คาดเดาทิศทางทีมในช่วงต่อไปได้ดีขึ้นกว่าดูแค่ฟอร์ม 2–3 นัดล่าสุดเท่านั้น

สุดท้ายแล้ว ในลีกที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและเงินลงทุนสูงอย่างพรีเมียร์ลีก การมีกุนซือที่อายุงานยาวนานไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มักหมายถึงการที่ “ทุกฝ่ายในสโมสรเดินไปในทิศทางเดียวกัน” และพร้อมให้เวลาโค้ชได้พิสูจน์แนวทางของตัวเองจนเห็นผลจริงในสนาม และสำหรับท่านใดที่สนใจเดิมพันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สามารถคลิก แทงบอล ได้เลย