
สเปน ฟุตบอลโลก 2026 การันตีตั๋วด้วยผลเสมอตุรกี 2-2 ปิดจ็อบแชมป์กลุ่มแบบไร้พ่าย
ตอบก่อน:
ทีมชาติ สเปน ฟุตบอลโลก 2026 การันตีตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่แคนาดา–สหรัฐฯ–เม็กซิโกเรียบร้อยแล้ว หลังเปิดบ้านเสมอ ตุรกี 2–2 ที่เซบีย่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 ทำให้จบอันดับหนึ่งของกลุ่ม E ในโซนยุโรปแบบไร้พ่าย และผ่านเข้ารอบบอลโลกเป็นสมัยที่ 17 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 1978
เกมเสมอตุรกี 2-2 ที่เซบีย่า: แมตช์ที่จบงาน แม้ไม่ชนะ
เกมนี้เล่นที่สนามลา การ์ตูฆา เมืองเซบีย่า โดยสถานการณ์ก่อนแข่งคือ
-
สเปนต้อง “อย่างน้อยไม่แพ้เละ” ก็จะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม
-
ส่วนตุรกีต้องชนะด้วยผลต่างถึง 7 ประตู จึงจะแซงเข้าป้าย ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
รูปเกมตามรายงานของ Reuters และสื่อยุโรปเป็นประมาณนี้
-
นาที 4 สเปนขึ้นนำไวจาก ดานี่ โอลโม่
-
ตุรกีตีเสมอ 1–1 ช่วงท้ายครึ่งแรกจาก เดนิซ กูล์
-
ครึ่งหลัง ซาลิห์ ออซชาน ซัดไกลให้ตุรกีแซงนำ 2–1
-
นาที 62 มิเกล โอยาร์ซาบาล ยิงตามซ้ำจากความผิดพลาดแนวรับตุรกี เป็น 2–2
ท้ายเกมสเปนพยายามบุกเอาชนะให้ได้ แต่สุดท้ายสกอร์คงที่ 2–2 ทว่าในแง่ “ภารกิจ” ถือว่าจบงาน เพราะ 1 แต้มเพียงพอให้จบเป็นแชมป์กลุ่ม E อย่างเป็นทางการ
ภาพรวมกลุ่ม E: สเปนปิดจ็อบแชมป์กลุ่มแบบไร้พ่าย
กลุ่ม E ของคัดบอลโลกโซนยุโรปประกอบด้วย สเปน ตุรกี จอร์เจีย และบัลแกเรีย แข่งขันแบบพบกันเหย้า–เยือน
เมื่อจบทุกนัด
-
สเปน: แชมป์กลุ่ม E
-
แข่ง 6
-
ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 0
-
ยิง 21 เสีย 4 (4-0 จอร์เจีย, เกมใหญ่กับตุรกี ฯลฯ)
-
-
ตุรกี: รองแชมป์กลุ่ม
-
เข้ารอบเพลย์ออฟต่อ
-
นั่นหมายความว่า สเปนจบกลุ่มนี้แบบ ไร้พ่าย และรักษาสถิติไร้พ่ายในรอบคัดเลือกติดต่อกันยาวนานถึง 31 นัด ตามสถิติที่ Reuters ยืนยัน
สเปน ฟุตบอลโลก 2026: ต่อเนื่องจากยุคแชมป์ยูโร 2024
จุดที่ทำให้ สเปน ฟุตบอลโลก 2026 น่าจับตาเป็นพิเศษ คือความต่อเนื่องจากการเป็นแชมป์ยูโร 2024 และการเปลี่ยนผ่านทีมที่เนียนมากภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้
สิ่งที่สื่อยุโรปและยูฟ่าวิเคราะห์ไว้ เช่น
-
สเปนชุดนี้เล่นด้วยสไตล์ “ยืดหยุ่นกว่า tiki-taka แบบดั้งเดิม”
-
มีทั้งตัวจ่ายบอลและตัวสปีดเกม อย่าง โอลโม่, โอยาร์ซาบาล, เฟร์ราน ตอร์เรส, ยามาล (แม้เกมนี้จะไม่มีชื่อ)
-
แม้จะขาดตัวหลักหลายคนในเกมเจอตุรกี ทั้งโรดรี, เปดรี, ลามีน ยามาล และคาร์บาฆาล แต่ทีมยังควบคุมเกมและไม่แพ้ในบ้านได้
การเข้ารอบบอลโลก 2026 แบบแชมป์กลุ่มไร้พ่าย จึงถูกมองว่าเป็น “ต่อเนื่องโดยตรง” จากความสำเร็จในยูโร และทำให้สเปนถูกดันขึ้นกลุ่มเต็งแชมป์โลกในสายวิเคราะห์หลายเจ้า
ตัวเลขและสถิติที่บอกว่ากระทิงดุพร้อมแล้ว
จากข้อมูลที่รวบรวมโดยฟีฟ่า–ยูฟ่าและสื่อใหญ่
-
สเปนผ่านเข้ารอบ ฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 17 ติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1978
-
รอบคัดเลือกครั้งนี้
-
ยิงรวม 21 ประตู
-
เสียเพียง 4 ประตู
-
มีสถิติไร้พ่าย และยืดสถิติไร้พ่ายในคัดบอลโลกเป็น 31 นัด
-
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่า สเปนไม่ได้แค่ “ผ่านเข้ารอบ” แต่กำลังเข้าสู่บอลโลกในสภาพของทีมที่โครงสร้างดี ฟอร์มมั่นคง และกำลังอยู่ในช่วงพีกของยุคเด ลา ฟวนเต้
มุมสายพรีเมียร์ลีก–สายเดิมพัน: สเปนในสายเต็งแชมป์
จากมุมคนตามทั้งพรีเมียร์ลีกและบอลยุโรป
-
แฟนบอลคุ้นชื่อดาวเตะสเปนจำนวนมากที่กระจายเล่นอยู่ทั้งลาลีกา พรีเมียร์ลีก และลีกใหญ่อื่น ๆ
-
ฟอร์มต่อเนื่องจากยูโร 2024 ทำให้สเปนถูกมองว่าเป็น “ทีมที่ลงตัวแล้ว” มากกว่าจะเป็นทีมกำลังทดลองระบบ
ด้าน สายวิเคราะห์–สายเดิมพันต่างประเทศ
-
หลายเว็บจัดให้สเปนอยู่ในกลุ่มเต็งต้น ๆ ร่วมกับ อังกฤษ ฝรั่งเศส อาร์เจนตินา และบราซิล
-
เหตุผลหลักคือ
-
ทรงบอลชัด
-
ขุมกำลังสมดุล
-
มีประสบการณ์แชมป์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ล่าสุดติดมือ
-
แฟนบอลในไทยที่อยากเช็กว่าตลาดให้ราคา สเปน ฟุตบอลโลก 2026 ไว้ระดับไหน มักจะเอาข่าว–สถิติแบบนี้ไปเปิดเทียบกับราคาที่เว็บต่างประเทศ และเว็บชื่อดังอย่าง UFABET ที่มักเปิดราคา Outright แชมป์โลก, ราคาเข้ารอบ และราคาต่อ–รองแต่ละแมตช์ให้เช็กกันล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม การแทงบอลมีความเสี่ยงสูงเสมอ ควรใช้เงินเย็น ตั้งงบให้ชัด และมองเป็นสีสันระหว่างเชียร์บอล มากกว่าคิดเป็นการลงทุนหลัก
สรุปในมุมบรรณาธิการ: สเปน ฟุตบอลโลก 2026 น่ากลัวระดับไหน
สรุปให้สั้นแบบที่อ่านแล้วเก็ตทันทีคือ
-
สเปนเสมอตุรกี 2–2 ที่เซบีย่า แต่ผลนี้เพียงพอให้การันตีแชมป์กลุ่ม E และตั๋ว ฟุตบอลโลก 2026 แบบไร้พ่ายในรอบคัดเลือก
-
ทีมต่อยอดมาจากยุคแชมป์ยูโร 2024 โครงสร้างชัด เล่นเป็นระบบ แม้ขาดตัวหลักก็ยังรักษามาตรฐานได้
-
สถิติไร้พ่ายยาว 31 นัดในรอบคัดเลือก บวกดีกรียุโรป ทำให้สเปนอยู่ในกลุ่มทีมที่ “ไม่มีใครอยากเจอ” ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มในอเมริกาเหนือ
จากมุมบรรณาธิการพรีเมียร์ลีกที่จับตาบอลยุโรปมาตลอด ถ้าจะมองหาทีมที่พร้อมทั้งเรื่องฟอร์ม ระบบ และความมั่นใจใน ฟุตบอลโลก 2026 ชุดนี้ หนึ่งในชื่อที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้ตั้งแต่ตอนนี้ก็คือ “สเปน” นี่แหละ