พรีเมียร์ลีกช่วยเศรษฐกิจอังกฤษ 9.8 พันล้านปอนด์ต่อปี ตามรายงาน Ernst & Young

ตอบก่อน:
บริษัทที่ปรึกษา Ernst & Young (EY) เผยตัวเลขใหม่ว่า พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023/24 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สหราชอาณาจักรกว่า 9.8 พันล้านปอนด์ และยังเติบโตขึ้นอีก 21% จากฤดูกาล 2021/22 ยืนยันว่าลีกสูงสุดของอังกฤษเป็นมากกว่าฟุตบอล แต่คือ “เครื่องจักรเศรษฐกิจ” ตัวใหญ่ของประเทศ

ต่อไปเรามาไล่ดูทีละประเด็นว่าเงินมหาศาลนี้มาจากไหน ไปอยู่ที่ใคร และหมายความว่าอะไรต่ออนาคตของสโมสรพรีเมียร์ลีก

รายงาน EY เผย พรีเมียร์ลีกสร้างมูลค่า 9.8 พันล้านปอนด์

รายงานของ EY ที่ทำร่วมกับพรีเมียร์ลีก ระบุว่าในฤดูกาล 2023/24 ลีกสูงสุดอังกฤษสร้างมูลค่าเศรษฐกิจรวมราว 9.8 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 215.6 ล้านล้านรูเปียห์ตามสื่ออินโดนีเซียที่อ้างตัวเลขเดียวกัน) เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับฤดูกาล 2021/22 และสูงกว่าฤดูกาล 1998/99 ถึง 14 เท่า

ริชาร์ด มาสเตอร์ส ซีอีโอพรีเมียร์ลีกให้ความเห็นว่า ลีกไม่ได้แค่สร้างความบันเทิง แต่ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของสหราชอาณาจักรในสายตาโลก และช่วยให้ฟุตบอลอาชีพทั้งระบบ – ตั้งแต่สโมสรใหญ่จนถึงอะคาเดมี และรากหญ้า – ได้รับประโยชน์ร่วมกัน

เงินไหลไปไหนบ้าง: งาน ภาษี และโครงการท้องถิ่น

จากรายงานเดียวกัน มีตัวเลขสำคัญที่เกี่ยวกับโครงสร้างเศรษฐกิจรอบพรีเมียร์ลีกชัดเจนมาก

• การจ้างงานกว่า 104,500 ตำแหน่ง
  ทั้งในสโมสรเอง บริษัทคู่ค้า สนามแข่ง ร้านค้า ท่องเที่ยว และบริการรอบสนาม

• ภาษีรวม 4.4 พันล้านปอนด์
  เป็นภาษีที่ไหลกลับเข้ารัฐ โดยประมาณ ครึ่งหนึ่ง (ราว 2.1 พันล้านปอนด์) มาจากนักฟุตบอลและสตาฟโค้ชที่มีรายได้สูง

• การลงทุนในสนามและชุมชน
  การเติบโตของรายได้ทำให้หลายสโมสรกล้าลงทุนขยายความจุสนาม สร้างศูนย์ฝึกใหม่ และทำโครงการเพื่อชุมชน เช่น ฟุตบอลเยาวชนและโปรแกรมเพื่อสุขภาพ

ปีเตอร์ อาร์โนลด์ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของ EY ในสหราชอาณาจักรอธิบายว่า ความนิยมของพรีเมียร์ลีกดึงดูดทั้งเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศและการท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ เพิ่มทั้งมูลค่าเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ในเวทีโลก

ทำไมตัวเลขนี้สำคัญต่ออนาคตของสโมสรพรีเมียร์ลีก

ในมุมบรรณาธิการพรีเมียร์ลีก ตัวเลข 9.8 พันล้านปอนด์ไม่ได้แค่ “สวยงาม” บนหน้ากระดาษ แต่ส่งผลจริงกับการบริหารทีมในหลายด้าน

1. ความมั่นคงด้านรายได้
   สโมสรมีฐานรายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด สปอนเซอร์ และวันแข่งขันที่แข็งแรงขึ้น ทำให้กล้าลงทุนกับนักเตะระดับท็อป สนามซ้อม และสตาฟวิเคราะห์ข้อมูลมากขึ้น

2. การรับมือกฎการเงิน (FFP / PSR)
   เมื่อรายได้ทั้งระบบโตขึ้น สโมสรที่บริหารดีจะมีพื้นที่ให้ใช้จ่ายได้มากกว่าเดิม ช่วยให้วางแผนซื้อขายนักเตะระยะยาวได้ชัดเจน

3. การขยายฐานแฟนบอลต่างประเทศ
   รายงานเน้นว่าความนิยมของพรีเมียร์ลีกทั้งในอังกฤษและนอกประเทศคือแรงขับสำคัญของตัวเลขเหล่านี้ แปลว่าตลาดต่างประเทศอย่างเอเชีย รวมถึงแฟนบอลในไทยและอาเซียน จะยิ่งถูกให้ความสำคัญมากขึ้น ทั้งด้านทัวร์พรีซีซั่นและแคมเปญออนไลน์

แฟนบอลพรีเมียร์ลีกได้อะไรจากเรื่องนี้

ถ้ามองในมุมแฟนบอลที่ตามข่าวพรีเมียร์ลีกทุกวัน ตัวเลขเศรษฐกิจอาจดูไกลตัว แต่จริง ๆ ส่งผลกับประสบการณ์เชียร์บอลโดยตรง เช่น

• สนามแข่งทันสมัยขึ้น ระบบความปลอดภัยและบริการดีขึ้น

• การถ่ายทอดสดคุณภาพสูงขึ้น มีกล้องมุมแปลก ๆ กราฟิกสถิติ และแพลตฟอร์มให้เลือกดูมากขึ้น

• สโมสรมีงบทำคอนเทนต์และแคมเปญเอาใจแฟนบอลในต่างประเทศ เช่น ทัวร์เอเชีย อีเวนต์ในไทย หรือคอนเทนต์ภาษาโลคัลในโซเชียล

ในทางกลับกัน ตัวเลขรายได้ที่สูงยังทำให้ ความคาดหวังต่อคุณภาพเกมและการจัดการลีก สูงตามไปด้วย – ตั้งแต่มาตรฐานผู้ตัดสิน ไปจนถึงการบริหารตารางแข่งและการดูแลแฟนบอลในสนาม

สรุปมุมบรรณาธิการ

โดยสรุปของบรรณาธิการข่าวสารกีฬา UFABET แล้ว รายงานของ EY ยืนยันอีกครั้งว่า พรีเมียร์ลีกไม่ใช่แค่ลีกที่เราดูเพื่อความมันส์ทุกสัปดาห์ แต่เป็น “ธุรกิจระดับชาติ” ที่สร้างมูลค่ามหาศาลให้สหราชอาณาจักร ทั้งในแง่เงิน ภาษี การจ้างงาน และการลงทุนในชุมชนรอบสนาม

สำหรับแฟนบอลพรีเมียร์ลีกทั่วโลก รวมถึงคนไทย ตัวเลข 9.8 พันล้านปอนด์แปลว่า ลีกนี้น่าจะยังเดินหน้าพัฒนาและแข่งขันกันดุเดือดต่อไปอีกนาน และทุกดีล ทุกสนามใหม่ ทุกคอนเทนต์ที่เราเห็นบนหน้าจอ ล้วนมี “เศรษฐกิจฟุตบอล” ตัวนี้เป็นแบ็กเอนด์คอยขับเคลื่อนอยู่เสมอ