
ผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีกยังไม่ก้าวทันยุโรป? เปิดมุมมองเทียบโปรตุเกส-อังกฤษ
ในช่วงพักทีมชาติวันที่ 14 พฤศจิกายน 2025 ยังไม่มีบอลพรีเมียร์ลีกให้ดู แต่ประเด็นใหญ่ที่โยงกับลีกอังกฤษเต็ม ๆ คือเรื่อง “ผู้ตัดสิน” และ “ความโปร่งใส” ของระบบตัดสินเกมระดับสูง เมื่อบทความหนึ่งจากเว็บสายอาร์เซน่อลชื่อ Untold Arsenal หยิบเคสของโปรตุเกสมาชี้ให้เห็นว่า อังกฤษอาจล้าหลังยุโรปไปไกลแล้วในเรื่องนี้
โปรตุเกสเริ่มลุกขึ้นมาพูด แต่พรีเมียร์ลีกยังเงียบ
ต้นเรื่องมาจากข่าวพาดหัวในโปรตุเกสแนว ๆ ว่า
“สโมสรโปรตุเกสเดือดจัด แต่ผู้ตัดสินเริ่มออกมาพูดแล้ว”
ใจความคือ ผู้ตัดสินลีกโปรตุเกสเริ่มรวมตัวประท้วงและออกมาให้สัมภาษณ์ หลังโดนสโมสรใหญ่ ๆ กดดันหนัก เรื่องการตัดสินที่ถูกมองว่ามีปัญหา
-
สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ต้องเรียกประชุมด่วนกับตัวแทนผู้ตัดสิน
-
สโมสรอย่าง เบนฟิก้า เคยออกมาวิจารณ์การแต่งตั้งผู้ตัดสินต่อสาธารณะ ว่าทำไมได้กรรมการคนเดิมมาคุมเกมสำคัญซ้ำ ๆ
-
ด้าน ปอร์โต้ ก็จัดคลิปช็อตปัญหาที่ตัวเองมองว่าโดนเสียเปรียบ ออกฉายให้สื่อและแฟนบอลดูอย่างชัดเจน
แม้ทั้งหมดนี้จะทำให้บรรยากาศฟุตบอลโปรตุเกสดุเดือด แต่ในมุมของผู้เขียนต้นฉบับ เขามองว่าอย่างน้อย “ทุกฝ่ายยังกล้าเปิดปากคุยกัน” ทั้งสโมสร สหพันธ์ และผู้ตัดสินเอง
อังกฤษกับ PGMO: ระบบปิดที่แฟนบอลแทบไม่รู้ข้อมูล
เมื่อหันกลับมามองพรีเมียร์ลีก ประเด็นที่ Untold Arsenal เน้นย้ำคือ โครงสร้างขององค์กรผู้ตัดสินอังกฤษ หรือ PGMO (Professional Game Match Officials Limited)
จุดที่ถูกวิจารณ์มีหลายข้อ เช่น
-
ผู้ตัดสินในอังกฤษ แทบไม่เคยให้สัมภาษณ์สื่อหลังเกม ต่างจากบางลีกในยุโรป
-
องค์กร PGMO เอง ไม่มีความโปร่งใสด้านข้อมูล แม้แต่เว็บไซต์สำหรับเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะก็ยังแทบหาอะไรไม่ได้
-
สื่อกระแสหลักในอังกฤษมัก “ไม่แตะเรื่องผู้ตัดสิน” หรือแตะเบามาก เมื่อเทียบกับการวิจารณ์นักเตะและผู้จัดการทีม
ผู้เขียนใช้คำว่าเป็นเหมือน “ระบอบเงียบ” รอบ ๆ ผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก ที่แฟนบอลและสโมสรถูกปล่อยให้เดาเอาเองว่ามาตรฐานการทำงานเป็นอย่างไร และถูกประเมิน ตรวจสอบ หรือพัฒนาอย่างไรบ้าง
เคสตัวอย่าง: โปรตุเกสกล้าเปิดเทป ส่วนอังกฤษยังทำเป็นมองไม่เห็น
บทความต้นทางยกตัวอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างแรงจากฝั่งโปรตุเกสว่า มีผู้ตัดสินคนหนึ่งออกมากล่าวหาว่า ปอร์โต้นำภาพรีเพลย์ประตูที่ถูกยกเลิกมาเปิดในห้องแต่งตัวผู้ตัดสินช่วงพักครึ่ง เพื่อกดดันและชี้ให้เห็นความผิดพลาดของเขาในอดีตเกมเยาวชนด้วย
ในเวลาเดียวกัน ปอร์โต้ยังรวบรวมลิสต์จังหวะปัญหาที่เชื่อว่าถูกผู้ตัดสินทำให้เสียผลประโยชน์ แล้วเผยแพร่ต่อสาธารณะอย่างเปิดเผย
ในมุมมองของ Untold Arsenal สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า
-
ที่โปรตุเกส “ทุกคนกล้าพูดเสียงดัง” ว่าระบบมีปัญหาอะไร
-
แต่ที่อังกฤษกลับเลือกใช้วิธี “เงียบเข้าไว้ เดี๋ยวคนก็ลืมเอง”
เขาเชื่อว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้ วันหนึ่งพรีเมียร์ลีกก็จะต้องเจอวิกฤตคล้าย ๆ กัน คือมีแรงกดดันใหญ่โตจากทั้งสโมสรและแฟนบอล จนต้องมาตั้งโต๊ะแก้ปัญหาแบบไฟไหม้ฟางในภายหลัง ซึ่งควรจะป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ทำไมเรื่องนี้สำคัญต่อแฟนพรีเมียร์ลีก?
ในฐานะบรรณาธิการข่าวพรีเมียร์ลีก สิ่งที่น่าสนใจคือ บทความนี้ไม่ได้พูดถึงแค่จังหวะ VAR หรือการให้ใบแดงในนัดเดียวจบ แต่โยงไปถึงระดับ “โครงสร้าง” ของลีกเลยทีเดียว
ถ้าเรามองลึกลงไป ผลกระทบมีอย่างน้อย 3 ข้อ
-
ความเชื่อมั่นในผลการแข่งขัน
-
ถ้าแฟนบอลรู้สึกว่าผู้ตัดสินถูกตรวจสอบอย่างจริงจังและกล้าอธิบายการตัดสิน ผลแพ้ชนะก็จะถูกยอมรับง่ายขึ้น
-
แต่ถ้าทุกอย่างปิดเงียบ ต่อให้ใช้ VAR ก็ยังเกิดคำถามว่าใครควบคุมมาตรฐานเหล่านี้กันแน่
-
-
ภาพลักษณ์ของพรีเมียร์ลีกในยุโรป
-
พรีเมียร์ลีกมักถูกมองว่าเป็น “ลีกอันดับหนึ่งของโลก” ในเชิงการตลาดและคุณภาพเกม
-
แต่ถ้าเรื่องพื้นฐานอย่างความโปร่งใสของผู้ตัดสินยังตามหลังลีกอื่น ภาพลักษณ์โดยรวมก็อาจถูกตั้งคำถาม
-
-
แรงกดดันต่อการปฏิรูปในอนาคต
-
เมื่อสื่ออิสระและบล็อกสายสโมสรเริ่มพูดเรื่องโครงสร้างมากขึ้นเรื่อย ๆ สักวันหนึ่งประเด็นนี้จะต้องหลุดเข้าหน้ากลางของสื่อใหญ่
-
และเมื่อถึงจุดนั้น การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นแบบรวดเดียวแรง ๆ แทนที่จะค่อย ๆ ปรับปรุง
-
มุมสรุป พรีเมียร์ลีกเก่งเรื่องมาร์เก็ตติ้ง แต่ระบบผู้ตัดสินอาจถึงเวลาต้องอัปเดต
ทางบรรณาธิการข่าวสารกีฬา UFABET ได้ทำการสรุปสั้น ๆ คือ บทความ “English refereeing still out of step with rest of Europe” ที่ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2025 ชี้ให้เห็นว่า
-
โปรตุเกสกำลังอยู่ในช่วง “ปะทะกันตรง ๆ” ระหว่างสโมสร ผู้ตัดสิน และสหพันธ์
-
ส่วนอังกฤษอยู่ในภาวะ “เงียบกริบ” ภายใต้โครงสร้างของ PGMO และการไม่แตะต้องของสื่อใหญ่
ในฐานะลีกที่ถูกยกว่าเป็นเบอร์หนึ่งของโลก พรีเมียร์ลีกอาจต้องถามตัวเองเหมือนกันว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะเปิดให้สังคมฟุตบอลมีส่วนร่วมตรวจสอบการทำงานของผู้ตัดสินมากขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้เสียงวิจารณ์สะสมอยู่ตามบล็อกหรือโซเชียลมีเดียเท่านั้น
เพราะสุดท้ายแล้ว ความน่าเชื่อถือของลีกไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เกมมันส์หรือซูเปอร์สตาร์ในสนาม แต่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแฟนบอลว่าทุกแต้ม ทุกใบแดง ทุกประตู ถูกตัดสินอย่างยุติธรรมและโปร่งใสจริง ๆ หรือเปล่า